![]() ยุคดิจิทัลแบบนี้ใช้งานดวงตาหนักไปไหม? |
![]() |
จ้องจอแทบจะตลอดเวลาคนไทย 68% สื่อสารผ่านออนไลน์บางคนติดมือถือตลอดเวลาใช้ชีวิตกลางแจ้งด้วยกิจกรรมที่ใช้ชีวิตกลางแจ้งมากขึ้น ตาเลยต้องเจอรังสี UV มากขึ้นเล่นเกมแบบดุดันพบว่า 19% ชอบเล่นเกมส์ทั้งในคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตแบบต่อเนื่องดูซีรีส์ทั้งคืนคน 41% ชอบเสพสื่อบันเทิงดูรายการโทรทัศน์ ดูหนัง ฟังเพลงผ่านทางออนไลน์แทบจะทั้งวันที่ดวงตาเราจ้องจอและเจอรังสี UV ตลอดเวลา |
Gen ไหน ๆ ก็จ้องจอนานขึ้นในยุคดิจิทัล ดวงตาของเราทำงานหนักทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเวลาทำงาน หรือเวลาพักผ่อนจากการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยพบว่า คนไทยใช้อินเทอร์เน็ต เฉลี่ยวันละ 7 ชั่วโมง 4 นาที โดยเฉพาะ Gen Y และ Gen Z ใช้อินเทอร์เน็ตไม่ต่ำกว่าวันละกว่า 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว |
![]() |
พบว่าอาชีพจ้องจอนานที่สุด คือ![]() * จากการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ประจำปี 2565 โดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) |
![]() |
|
จ้องจอนานขนาดนี้ แสงสีฟ้าทำร้ายดวงตาขนาดไหนยิ่งใช้สายตามาก ยิ่งทำให้ได้รับแสงสีฟ้า (Blue Light) ซึ่งเป็นคลื่นแสงที่มีพลังงานสูงจากหน้าจอต่างๆ รวมถึงรังสี UV จากแสงแดดที่ก่ออันตราย สร้างความเสียหายต่อดวงตามากขึ้น และอาจนำไปสู่สารพัดโรคทางตาได้ เช่น โรควุ้นในตาเสื่อม โรคต้อกระจก โรคต้อหินสำรวจตัวเอง คุณเริ่มมีอาการทางสายตาเหล่านี้แล้วหรือยัง ? |
|
![]() |
![]() |
ตาพร่ามัว โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของแสงอย่างรวดเร็ว หรือแสงน้อย |
ตาเบลอ มองเห็นภาพไม่คมชัด |
![]() |
![]() |
โฟกัสภาพไม่ดี โดยเฉพาะเมื่อมีการมองวัตถุระยะใกล้สลับไกล |
ตาแห้ง เคืองตา แสบตา เมื่อจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน |
ถึงเวลาดูแลดวงตาของคุณให้ดีด้วยสารอาหารที่ช่วยดูแลสุขภาพสายตาในยุคดิจิทัล |
|
เบต้าแคโรทีนสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นวิตามินเอในร่างกายได้ ซึ่งวิตามินเอจะเข้าไปช่วยบำรุงจอประสาทตา เพิ่มการมองเห็นในที่ที่มีแสงสว่างน้อยและช่วยรับมือการเปลี่ยนแสงกะทันหันได้ดีสังกะสีช่วยสนับสนุนการทำงานของตัวรับแสงที่อยู่ในจอประสาทตา ทำให้สามารถมองเห็นภาพได้คมชัดลูทีนและซีแซนทีน (อัตราส่วน 5:1)ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของสารสีในบริเวณจุดรับภาพ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น และช่วยปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้าทำให้สบายตาเวลาที่จ้องหน้าจอนานมากเกินไปไลโคปีนจะสะสมอยู่ที่กล้ามเนื้อซิลิอารี่บอดี้ (Ciliary Body) ที่คอยทำหน้าที่ปรับความโค้งของเลนส์ตา ที่ใช้สร้างสารน้ำตาในลูกตา ช่วยลดอาการตาล้าจากการใช้จอเป็นเวลานาน และช่วยให้ตาสามารถปรับโฟกัสภาพในระยะต่างๆ ได้ดีขึ้น |
ปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้า ด้วยสารอาหารจากธรรมชาติ |
|
![]() |
|
เบต้าแคโรทีนสกัดจากสาหร่าย Dunaliella ยังได้รับการรับรองNutricert จากฟาร์มของพันธมิตรของนิวทริไลท์ในออสเตรเลีย |
ไลโคปีนสกัดจากมะเขือเทศปลูกและเก็บเกี่ยวในฟาร์มพันธมิตร Nutricert ของนิวทริไลท์ในอิสราเอล |
ลูทีนและซีแซนทีน (อัตราส่วน 5:1)สกัดจากดอกดาวเรืองที่ปลูกและเก็บเกี่ยวในฟาร์มที่ได้รับรอง Nutricert จากฟาร์มพันธมิตรในอินเดีย |
สังกะสีมาจากสารที่ชื่อซิงค์กลูโคเนต ซึ่งเป็นสังกะสีที่ถูกยึดติดกับเกลือกรดกลูโคนิก ทำให้เป็นสังกะสีที่มีความเสถียร ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ดี |
สารอาหารเหล่านี้ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้าทั้ง 4 ด้าน |
|
![]() |
![]() |
ช่วยสนับสนุนการปรับสายตาในสภาพแสงน้อยและเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของแสงอย่างกะทันหัน | ช่วยให้การมองเห็นภาพคมชัด |
![]() |
![]() |
สนับสนุนการโฟกัสภาพเมื่อมองสลับไปมาระหว่างวัตถุที่อยู่ใกล้หรือไกล | ช่วยให้สบายตาเวลาจ้องจอดิจิทัลเป็นเวลานานและช่วยปกป้องดวงตาจากรังสี UV หรือแสงสีฟ้า |
ปกป้องดวงตาให้ดียิ่งขึ้นด้วยไอ-เบลนด์ ใหม่ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อ ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้าโดยเฉพาะ |
![]() |
สารสำคัญต่อ 1 เม็ด• ลูทีน (สารสกัดจากดอกดาวเรือง) 5 มก. |
กลุ่มเป้าหมายเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพสายตาทั่วไป |
![]() |
สารสำคัญต่อ 1 เม็ด• ลูทีน (สารสกัดจากดอกดาวเรือง) 12 มก. และซีแซนทีน (สารสกัดจากดอกดาวเรือง) 2.4 มก. (อัตราส่วน 5:1) |
กลุ่มเป้าหมายเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพสายตาในยุคปัจจุบันที่มีการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลมากขึ้น |